ปปส.ภ.2 บูรณาการความร่วมมือกับสำนักปราบปรามยาเสพติด (สปป.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานจัดเก็บสารเคมีก่อนส่งออกต่างประเทศ
จากข้อมูลการสืบสวนและการตรวจสอบฐานข้อมูล พบว่า โรงงานดังกล่าวประกอบกิจการจำหน่ายเครื่องจักรและเคมีภัณฑ์ มานานกว่า 30 ปี และมีประวัติการส่งออกสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) โดยพบข้อมูลพิรุธว่า ในห้วงปี 2567-2568 บริษัทได้ส่งออก โซเดียมคาร์บอเนต ไปยัง สปป.ลาว มาแล้ว 4 ครั้ง รวมปริมาณกว่า 3,000 กิโลกรัม แต่ไม่มีการแจ้งข้อมูลให้ สำนักงาน ป.ป.ส. ทราบ ตามระเบียบ ซึ่งโซเดียมคาร์บอเนต ถือเป็นสารสำคัญในขั้นตอนการเปลี่ยนมอร์ฟีนเบสให้กลายเป็นเฮโรอีนเบส หากสารเคมี จำนวน 3,000 กิโลกรัม ที่บริษัทส่งออกโดยไม่แจ้งนี้ มีการหลุดรอดไปถึงแหล่งผลิต คาดการณ์ว่า สามารถนำไปผลิตเป็นเฮโรอีนได้มากถึง 750 กิโลกรัม ซึ่งถือเป็นปริมาณมหาศาล ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง
จากการเข้าตรวจค้นภายในโรงงาน เจ้าหน้าที่พบสารเคมีและเคมีภัณฑ์ ประกอบด้วย Acetone วัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 จำนวน 10 ถัง (150 กิโลกรัม) Borax วัตถุอันตราย ชนิดที่ 3 จำนวน 27 กระสอบ (675 กิโลกรัม) และ Sodium hypochloride (คลอรีนน้ำ) ซึ่งเป็นวัตถุอันตราย ชนิดที่ 1 จำนวน 21 ถัง (420 กิโลกรัม) โดยสารเคมีดังกล่าว ถือเป็นสารเคมีจำเป็นในขั้นตอนการฟอกและตกผลึกยาเสพติด (ยาบ้า/ไอซ์/เฮโรอีน) ซึ่งสารเคมีดังกล่าว อยู่ภายใต้การ ควบคุมของกรมโรงงานอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบ ไม่พบการขึ้นทะเบียนเป็นวัตถุอันตราย และไม่มีใบอนุญาตครอบครองของสาร Borax และสาร Acetone เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ พร้อมประสานอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้นและป้องกันไม่ให้สารตั้งต้นเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการผลิตยาเสพติด
ทั้งนี้ ได้มีการชี้แจงกับผู้จัดการบริษัทดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ตระหนักถึงความรับผิดชอบและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยต้องตรวจสอบการครอบครอง การใช้ และรายงานการเคลื่อนย้ายสารเคมีกลุ่มเสี่ยงอย่างถูกต้องและรัดกุม เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของขบวนการค้ายาเสพติด และช่วยกันป้องกันไม่ให้สารเคมีเหล่านี้รั่วไหลไปยังกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติด